แต่มันก็สายเกินไปแล้ว เธอเล่าทั้งน้ำตาว่าในวันนั้น เธอเห็นลูกน้อยของเธอกำลังนอนหลับอยู่ เธอก็เลยออกไปซื้อผ้าอ้อมสำหรับเด็กทารกที่ร้านค้าบริเวณใกล้เคียงบ้าน แต่คาดไม่ถึงว่าจะเกิดอุบัติเหตุแบบนี้ และก่อนที่เธอจะออกจากบ้าน ลูกน้อยของเธอยังคงนอนอยู่บนเตียงด้วยรอยยิ้มที่สวยงาม
ไฟไหม้รุนแรงมากเฟอร์นิเจอร์ต่างๆในบ้านต่างก็ถูกเผาไหม้หมด สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกสิ้นหวังก็คือ ในห้องนอนนั้นไม่มีลูกน้อยของเธอ แม้แต่ศพก็ไม่เหลือ
นักดับเพลิงได้บอกข่าวที่โหดร้ายกับเธอว่า เพราะไฟไหม้รุนแรงเกินไป ลูกน้อยของเธอถูกเผาไหม้และไม่เหลืออะไรแล้ว….
คุณแม่คนนี้รับความจริงที่โหดร้ายนี้ไม่ได้และเกือบจะเป็นบ้า คงไม่มีคุณแม่คนไหนสามารถรับกับอุบัติเหตุดังกล่าวได้หรอก
หลังจากนั้นอีก6ปีต่อมา คุณแม่คนนี้ก็ค่อยๆลืมความเจ็บปวดนี้ และพยายามที่จะทำให้ตัวเองมีชีวิตที่ปกติ และวันหนึ่งในงานปาร์ตี้วันเกิดของเพื่อน เธอได้พบเจอสาวน้อยที่มีลักยิ้มที่น่ารักและมีสายตาที่คุ้นเคยคนหนึ่ง สาวน้อยคนนี้ได้ดึงดูดความสนใจของเธอทันที
ความรู้สึกของเธอบอกเธอว่า สาวน้อยที่ยืนอยู่ข้างหน้าเธอก็คือลูกน้อยของเธอที่เสียชีวิตในไฟไหม้ครั้งนั้น เธออ้างว่าจะช่วยจัดทรงผมให้สาวน้อยและได้แอบเก็บเส้นผมของสาวน้อยคนนี้ไว้
หลังจากออกมาจากบ้านของเพื่อนเธอก็รีบไปโรงพยาบาลเพื่อไปตรวจดีเอ็นเอของสาวน้อยคนนี้ เมื่อผลดีเอ็นเอออกมา เธอถึงกับต้องร้องไห้และดีใจมากๆ เพราะว่าสาวน้อยที่น่ารักคนนี้เป็นลูกสาวของเธอจริงๆ
หลังจากได้แจ้งตำรวจความจริงก็โผล่ออกมา คนที่ขโมยลูกสาวของเธอไปนั้นเป็นญาติของเธอ ก่อนที่จะเกิดเหตุไฟไหม้ญาติของเธอคนนี้เคยมาเยี่ยมเธอและลูกน้อยของเธอ พร้อมบอกกับเธอว่าตัวเองก็กำลังตั้งท้องเหมือนกันใครจะคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นแผนของญาติคนนี้ทั้งหมด แผนก็คือรอเธอออกจากบ้านไป แล้วก็แอบเข้าไปในบ้านของเธอและขโมยเด็กทารกพร้อมกับจุดไฟเผาบ้านแล้วก็หนีออกไปจากทางหน้าต่าง ญาติคนนี้เป็นคนที่น่าเกลียดและเลวจริงๆเลย
แต่โชคดีด้วยความรักและความรู้สึกของผู้ที่เป็นแม่ ในที่สุดเธอก็ได้หาลูกสาวของเธอเจอ
Credited: Patjaa