หนุ่มเชียงใหม่ หัวใส วางแผนลงทุนหาเมียในหมู่บ้าน ชักชวนเพื่อนบ้านตั้งวิสาหกิจชุมชน ตั้งตนเป็นประธานกู้เงิน ธ.ก.ส. ชาวบ้านเชื่อใจฝากเงินส่ง ธ.ก.ส. ล่าสุด หอบเงิน 5.4 ล้าน หนีลอยนวล แถมทิ้งเมียทันที …
วันที่ 14 ก.ย. 58 ร.ต.ท.พสิษฐ์ เถาวัลยา ร้อยเวรสอบสวน สภ.สอง จ.แพร่ รับแจ้งเหตุจากกลุ่มชาวบ้าน จากตำบลทุ่งน้าว อำเภอสอง จังหวัดแพร่ จำนวน 40 คน นำโดย นายวัตรชัย ศรีมูล กำนันตำบลทุ่งน้าว และ นายผล ชัยกา อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 165 หมู่ที่ 2 ต.ทุ่งน้าว อ.สอง ตัวแทนชาวบ้านทั้งหมด ได้เข้าแจ้งความ ขอให้ติดตามจับกุมตัว นายสัญญา แก้วฟู อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นคนเชียงใหม่ มาดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์
ด้าน นายผล ชัยกา ตัวแทนชาวบ้าน เผยว่าเมื่อปี 2551 นายสัญญา แก้วฟู ซึ่งมีภรรยาอยู่ในหมู่บ้าน มาชักชวนชาวบ้านรวมตัวกันตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ครั้งแรกรวบรวมได้ 10 คน จึงได้ร่วมกันไปจดทะเบียน เป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มทุ่งน้าวสามัคคี โดยให้นายสัญญา เป็นประธาน จากนั้นก็นำหลักฐานการจดทะเบียนไปทำการกู้เงินจาก ธ.ก.ส. ครั้งแรก ก็สามารถกู้ออกมาได้ 200,000 บาท โดยการกู้นั้นจะได้เป็นเครื่องมือการเกษตร ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ตามจำนวนเงิน จากนั้นก็เอามาจำหน่าย มีกำไรดี จากนั้นก็ได้กู้เพิ่มเป็น 500,000 บาท ต่อมายอดกู้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งชาวบ้านก็เริ่มมาสมัครเข้ากลุ่มมากขึ้น ถึง 40 คน และก็มีการแยกกลุ่มย่อยออกไปอีก 4 กลุ่ม และเงินกู้ก็ขยายเพิ่มขึ้นเป็นล้าน ช่วง 4 ปีแรก การเงินหมุนเวียนดี มาจนถึงปี 2556 สมาชิกในกลุ่มก็ได้นำเงินที่กู้มาจัดส่งให้กับธนาคาร รวมทั้งดอกเบี้ยเป็นเงิน 5,400,000 บาท โดยนำเงินทั้งหมดให้นายสัญญา ซึ่งเป็นประธานนำไปใช้ให้ธนาคาร เพื่อที่จะเตรียมทำการกู้ยอดใหม่ต่อไป เวลาผ่านไป นายสัญญาก็หายตัวไป จนกระทั่งมีหนังสือทวงเงินมาจากธนาคาร ทวงมายังสมาชิกทุกคน ซึ่งยอดเงินบางคนหลายแสน เมื่อรวมกันแล้ว 5 ล้านกว่าบาท ซึ่งก็ทราบว่าที่ผ่านมา นายสัญญาไม่ได้นำเงินไปส่งให้ธนาคาร แต่ได้หอบเงินจำนวน 5.4 ล้านหนีไปแล้ว ซึ่งทางธนาคารได้กำหนดให้สมาชิกทุกคนนำเงินที่ติดค้างธนาคารไปจ่าย หากยังไม่นำส่ง ก็จะมีการดำเนินคดีทางกฎหมาย
ขณะที่ พนักงานสอบสวน หลังจากที่รับแจ้งความแล้ว ได้บอกกับชาวบ้านว่า พนักงานสอบสวนจะขอสอบสวนชาวบ้านทุกคนคงต้องใช้เวลา และจะดูว่าคดีนี้จะเป็นคดีทางเศรษฐกิจหรือไม่ เบื้องต้นจะแจ้งข้อหายักยอกเงินสด เพื่อที่จะออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวน เมื่อออกหมายเรียกไม่มาก็จะออกหมายจับต่อไป
ทั้งนี้ นายวัตรชัย เผยว่า นายสัญญาเป็นคนเชียงใหม่ มาแต่งงานอยู่กับคนในหมู่บ้านหลายปีแล้ว ซึ่งชาวบ้านก็ไว้วางใจ จนกระทั่งให้เป็นประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เป็นคนวิ่งเต้นในการติดต่อจดทะเบียนไปจนถึงกู้เงินกับ ธ.ก.ส.ได้ มีเงินหมุนเวียนในกลุ่มจำนวนมาก แต่พอเม็ดเงินที่ชาวบ้านไว้วางใจให้นำไปใช้หนี้ ธ.ก.ส. จึงทำให้นายสัญญา เปลี่ยนใจหอบเงินหลบหนีไปพร้อมกับทิ้งภรรยาไว้ ชาวบ้านได้ออกติดตามหลายครั้งแต่ไม่พบ ก็จึงได้รวมตัวกันมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ส่วนเงินที่ต้องใช้หนี้ ธ.ก.ส.ทางชาวบ้านได้ไปคุยกับทางธนาคารไว้บ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่เป็นที่ตกลงกันว่าจะเอาอย่างไร คงต้องให้ทางพนักงานสอบสวน ติดตามตัวนายสัญญามาสอบสวนก่อนถึงจะรู้ว่าจะเอาอย่างไรกัน
Cr. Patjaa
