เจ้าหนูน้อย Sonny Davy เกิดมาก็มีปานแดงขนาดประมาณ 7 ซม.อยู่บนใบหน้าด่านซ้าย ปานแดงมีขนาดใหญ่ประมาณลูกเบสบอล ดูแล้วเหมือนมีอะไรปูดออกมาจากแก้ม ก็เลยโดนผู้คนหัวเราะขำว่าเป็นสัตว์ประหลาดบ่อยๆ
คุณแม่อย่าง Lucy ก็เลยไม่สบายใจ ที่ลูกน้อยโดยมองด้วยสายตาแปลกๆตลอดเวลา บางคนโหดร้ายกว่านั้น ถึงขนาดเดินตามพวกเขา เพียงเพื่อต้องการมองใบหน้าประหลาดของเด็กน้อย คุณแม่วัยเยาว์ท่านนี้กลัวลูกน้อยจะมีปมด้อย ไปโรงเรียนแล้วอาจจะมีเพื่อนๆแกล้ง
ที่ร้านอาหาร คุณแม่คนหนึ่งเอาแต่ชี้มาที่ลูกน้อยของพวกเขา ทำเหมือนกับอยู่ในสวนสัตว์ยังไงยังนั้น ซึ่งเรื่องแบบนี้มันโหดร้ายมากสำหรับเด็กเล็กๆคนนึง
คุณแม่บอกว่า “เด็กๆออกจะน่ารัก เป็นสิ่งมีชีวิตที่สวยงาม ชอบยิ้ม ชอบหัวเราะ ชั้นไม่อยากให้คำพูดและสายตาประหลาดของคนเหล่านี้ทำลายชีวิตเด็กน้อย”
ตอนนี้หนูน้อยเกือบ 2 ขวบแล้ว เขากำลังจะได้รับการผ่าตัดเร็วๆนี้ และหวังว่า “ปานแดง” จะค่อยๆเล็กลงและหายไป หลังจากได้รับการตรวจสอบ ปานแดงบนใบหน้าของหนูน้อยไม่ใช่ปานธรรมดา แต่เป็นเนื้องอกของหลอดเลือด ปานแดงชนิดนี้เมื่อแรกเกิดไม่มี แต่พออายุได้ 6 เดือนก็เกิดขึ้นมา แล้วก็ค่อยมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
นี่เป็นการผ่าตัดครั้งแรกของหนูน้อย ต่อๆไปคงต้องมีอีกหลายๆครั้ง ใบหน้าของหนูน้อยอาจจะไม่มีโอกาสเป็นธรรมชาติเหมือนเด็กคนอื่น เขาจะมีแผลเป็นบนใบหน้า แต่ไม่ว่ายังไง ในสายตาของพ่อกับแม่แล้ว เขาก็ยังเป็นเด็กที่งดงามที่สุด
ทารกไม่น้อยที่เมื่อแรกเกิดมีเครื่องหมายติดตัวมา พ่อแม่ปู่ย่าตายายคิดว่ามันเป็นปาน แต่ไม่รู้ว่ามันเป็นโรคอย่างหนึ่ง: เนื้องอกของหลอดเลือด คนจำนวนมากไม่เข้่าใจว่าเนื้องอกของหลอดเลือดคืออะไร ทำให้ไม่สามารถรักษาได้ทันท่วงที กลัวว่าจะส่งผลอะไรต่อเด็กน้อยเมื่อเขาโตขึ้น ไม่รู้เลยว่าที่จริงแล้วนี่แหล่ะส่งผลต่อสุขภาพของเด็ก
เนื้องอกของหลอดเลือดมีอันตรายอย่างเฉพาะเจาะจงอย่างไร?
1. ถ้าโดนกระทบอย่างรุนแรง เนื้องอกของหลอดเลือดจะแตกได้ง่าย และเมื่อมันแตกจะเป็นสาเหตุให้เลือดไหลไม่หยุดเป็นอันตรายถึงชีวิต
2. เนื้องอกของหลอดเลือดจะทำให้เกิดความผิดปกติในการเจริญเติบโตของกระดูก
3. นักวิชาการหลายท่านคิดว่าเนื้องอกของหลอดเลือดเป็นการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ทำให้ผู้ที่มีเนื้องอกของหลอดเลือด จะถ่ายทอดจากรุ่นไปสู่รุ่น ส่งผลต่อสุขภาพ
4. เนื้องอกของหลอดเลือดจะทำลายระบบที่อยู่รอบๆ ทำให้เกิดอาการผิดปกติ ส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะ
5. เนื้องอกของหลอดเลือดมีผลต่อความสวยงาม
หวังว่าหลังจากผู้ปกครองในบ้านได้อ่านบทความนี้ จะสามารถพาลูกน้อยไปรักษาได้อย่างทันท่วงที เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อเด็กๆ
คุณแม่อย่าง Lucy ก็เลยไม่สบายใจ ที่ลูกน้อยโดยมองด้วยสายตาแปลกๆตลอดเวลา บางคนโหดร้ายกว่านั้น ถึงขนาดเดินตามพวกเขา เพียงเพื่อต้องการมองใบหน้าประหลาดของเด็กน้อย คุณแม่วัยเยาว์ท่านนี้กลัวลูกน้อยจะมีปมด้อย ไปโรงเรียนแล้วอาจจะมีเพื่อนๆแกล้ง
ที่ร้านอาหาร คุณแม่คนหนึ่งเอาแต่ชี้มาที่ลูกน้อยของพวกเขา ทำเหมือนกับอยู่ในสวนสัตว์ยังไงยังนั้น ซึ่งเรื่องแบบนี้มันโหดร้ายมากสำหรับเด็กเล็กๆคนนึง
คุณแม่บอกว่า “เด็กๆออกจะน่ารัก เป็นสิ่งมีชีวิตที่สวยงาม ชอบยิ้ม ชอบหัวเราะ ชั้นไม่อยากให้คำพูดและสายตาประหลาดของคนเหล่านี้ทำลายชีวิตเด็กน้อย”
ตอนนี้หนูน้อยเกือบ 2 ขวบแล้ว เขากำลังจะได้รับการผ่าตัดเร็วๆนี้ และหวังว่า “ปานแดง” จะค่อยๆเล็กลงและหายไป หลังจากได้รับการตรวจสอบ ปานแดงบนใบหน้าของหนูน้อยไม่ใช่ปานธรรมดา แต่เป็นเนื้องอกของหลอดเลือด ปานแดงชนิดนี้เมื่อแรกเกิดไม่มี แต่พออายุได้ 6 เดือนก็เกิดขึ้นมา แล้วก็ค่อยมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
นี่เป็นการผ่าตัดครั้งแรกของหนูน้อย ต่อๆไปคงต้องมีอีกหลายๆครั้ง ใบหน้าของหนูน้อยอาจจะไม่มีโอกาสเป็นธรรมชาติเหมือนเด็กคนอื่น เขาจะมีแผลเป็นบนใบหน้า แต่ไม่ว่ายังไง ในสายตาของพ่อกับแม่แล้ว เขาก็ยังเป็นเด็กที่งดงามที่สุด
ทารกไม่น้อยที่เมื่อแรกเกิดมีเครื่องหมายติดตัวมา พ่อแม่ปู่ย่าตายายคิดว่ามันเป็นปาน แต่ไม่รู้ว่ามันเป็นโรคอย่างหนึ่ง: เนื้องอกของหลอดเลือด คนจำนวนมากไม่เข้่าใจว่าเนื้องอกของหลอดเลือดคืออะไร ทำให้ไม่สามารถรักษาได้ทันท่วงที กลัวว่าจะส่งผลอะไรต่อเด็กน้อยเมื่อเขาโตขึ้น ไม่รู้เลยว่าที่จริงแล้วนี่แหล่ะส่งผลต่อสุขภาพของเด็ก
เนื้องอกของหลอดเลือดมีอันตรายอย่างเฉพาะเจาะจงอย่างไร?
1. ถ้าโดนกระทบอย่างรุนแรง เนื้องอกของหลอดเลือดจะแตกได้ง่าย และเมื่อมันแตกจะเป็นสาเหตุให้เลือดไหลไม่หยุดเป็นอันตรายถึงชีวิต
2. เนื้องอกของหลอดเลือดจะทำให้เกิดความผิดปกติในการเจริญเติบโตของกระดูก
3. นักวิชาการหลายท่านคิดว่าเนื้องอกของหลอดเลือดเป็นการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ทำให้ผู้ที่มีเนื้องอกของหลอดเลือด จะถ่ายทอดจากรุ่นไปสู่รุ่น ส่งผลต่อสุขภาพ
4. เนื้องอกของหลอดเลือดจะทำลายระบบที่อยู่รอบๆ ทำให้เกิดอาการผิดปกติ ส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะ
5. เนื้องอกของหลอดเลือดมีผลต่อความสวยงาม
หวังว่าหลังจากผู้ปกครองในบ้านได้อ่านบทความนี้ จะสามารถพาลูกน้อยไปรักษาได้อย่างทันท่วงที เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อเด็กๆ