พบ ‘น้องทับทิม’ เด็กหญิงร่างจิ๋ว อายุขวบกว่าหนักเพียง 2 กก.สูง 48 ซม.โดยมีร่างกายแข็งแรง ด้านมารดาเผยแพทย์ระบุลูกผิดปกติที่พันธุกรรมตั้งแต่เกิด ด้านนักสังคมสงเคราะห์ เชียงใหม่ ประสานบ้านเด็กเวียงพิงค์ขอนมผงมาช่วย …
เมื่อวันที่ 14 ก.ย.58 นางศิวาพร วิรัชลาภ นักสังคมสงเคราะห์ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางไปเยี่ยมครอบครอบครัว ของ นางมูล ไม่มีนามสกุล อายุ 29 ปี ชาวไทใหญ่ อยู่บ้านตามบัตรบุคคลพื้นที่สูง เลขที่ 64/ช หมู่ 10 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และ นายไซ โจ อายุ 32 ปี ชาวไทยใหญ่ ซึ่งมาเช่าหอพักไม่มีชื่ออยู่ในหมู่บ้านหนองไคร้ศรีทรายมูล ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ หลังจากที่การนำภาพเด็กไปส่งต่อแบ่งปันกันในสังคมออนไลน์ในจังหวัดเชียงใหม่ ว่ามีร่างกายผิดปกติกับเด็กทั่วไป โดยเมื่อเจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าว ไทยรัฐเดินทางไปถึงห้องเช่าดังกล่าว พบกับ นางมูล ซึ่งเลี้ยงลูกอยู่บ้านคนเดียว ส่วนสามี ได้ออกไปรับจ้างทำงานนอกบ้าน
นางมูล กล่าวว่า ได้อยู่กินกับสามีมาหลายปี หลังจากที่เข้ามาทำงานรับจ้างในตัวเมืองเชียงใหม่ด้วยและเกิดตั้งครรภ์ น้องทับทิมหรือ ด.ญ.กวินนาถ อายุ 1 ขวบ 11 เดือน หลังจากที่ตั้งครรภ์ก็ได้ไปฝากครรภ์ที่ รพ.นครพิงค์ ซึ่งระหว่างตั้งครรภ์นั้น แพทย์ตรวจพบว่า น้ำหนักตัวตนน้อยกว่าปกติ ขนาดคลอดลูกเมื่อวันที่ 5 ต.ค.2556 มีน้ำหนักเพียง 62 กิโลกรัม หลังจากที่คลอดลูกออกมาแล้ว ปรากฏว่าได้เพศหญิง มีตัวแคระแกร็นผิดปกติ มีน้ำหนักแรกเกิด 830 กรัม ร่างกายมีความยาว 14 ซม.เส้นรอบศีรษะมีความยาว 15 ซม. แพทย์ต้องนำเข้าตู้อบรักษานอนเกือบเดือน จึงอนุญาตให้ไปรับกลับมาเลี้ยงที่บ้าน
มารดาน้องทับทิม กล่าวอีกว่า ทางแพทย์บอกว่า ลูกสาวที่ร่างกายเล็กผิดปกตินั้นอาจเกิดจากยีนที่ผิดปกติ แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นโรคอะไร และลูกสาวจะโตขึ้นมากว่านี้อีกไม่มากนักเท่านั้น โดยแพทย์ก็นัดไปฉีดวัคซีนเหมือนเด็กปกติทั่วไป โดยการเลี้ยงดู น้องทับทิม ก็เลี้ยงด้วยนมแม่ และก็เลี้ยงง่าย ไม่ค่อยเจ็บป่วยเหมือนเด็กทั่วไป ทุกวันนี้น้องทับทิมชอบทานข้าวเหนียวหมูปิ้งและแคบหมู ที่ตนต้องเคี้ยวให้อ่อนก่อนป้อนให้กินทุกวัน ทำให้ร่างกายแข็งแรงดีส่วนเสื้อผ้านั้นก็ซื้อผ้าเด็กทั่วไปตามตลาดนัดแล้วนำ มาตัดเย็บให้เล็กลงอีกครั้ง เพราะไม่อย่างนั้นจะใส่ไม่ได้เพราะน้องทับทิมตัวเล็กมาก
ด้าน น.ส.ศิวาพร นักสังคมสังเคราะห์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบหลักฐานการคลอด และใบสูติบัตรของเด็กแล้วพบว่า น้องทับทิมเป็นเด็กต่างด้าว ตามระเบียบราชการจึงไม่สามารถช่วยเหลือได้มาก แต่ในเบื้องตนทางสำนักงานพัฒนาสังคมฯ ได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวเป็นเงิน 2 พันบาท พร้อมกับประสานบ้านเด็กเวียงพิงค์เพื่อขอสนับสนุนนมผงมาช่วยเหลืออีกครั้ง
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวไทยรัฐได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลนคร เชียงใหม่ ซึ่งเป็น รพ.ประจำจังหวัด สังกัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อจะขอทราบข้อเท็จจริงความผิดปกติของน้องทับทิม ทางประชาสัมพันธ์แจ้งว่า วันนี้ยังไม่สามารถติดต่อแพทย์สูตินรีเจ้าของเรื่องได้ จึงนัดให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวไทยรัฐในเวลา 13.00 น.ของวันที่ 15 ก.ย.นี้ เพื่อชี้แจงให้ประชาชนทราบข้อเท็จจริงต่อไป.
Cr. : Patjaa
