จากกรณีนายกฤษฎา ศรีนรินทรานนท์ อายุ 43 ปี อดีตผู้บริหารสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านรัชดาฯ ใช้อาวุธมีดพกสั้นต่อสู้กับนายธัชกร เหลืองอุทัย อายุ 28 ปี จนเสียชีวิตทั้งคู่ เหตุเกิดภายในห้องเลขที่ 502 ชั้น 5 เอเชีย รีสอร์ทย่านบึงกุ่ม กทม. ซึ่งต่อมาน.ส.ณัฏฐณิชา หรือเอ๊ะ สวัสดิผล อายุ 23 ปี พริตตี้สาวยอมรับสารภาพว่า เป็นคนนัดให้นายธัชกรบินด่วนมาจาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทำปลอมเป็นตำรวจเข้าค้นห้องเพื่อยึดมือถือของนายกฤษฎา เพราะแค้นที่นายกฤษฎาถ่ายคลิปตนเองเสพยาไว้แบล็กเมล์ แต่ทั้งคู่เกิดต่อสู้กันจนเสียชีวิตทั้งคู่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 14 ก.ย. พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 ได้เดินทางมาที่ สน.ลาดพร้าว จากนั้นได้เบิกตัวน.ส.ณัฏฐณิชา ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาใช้จ้างวานส่งเสริมให้ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 2006/2558 ลงวันที่ 13 ก.ย. 2558 ออกจากห้องควบคุมเพื่อสอบปากคำ โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง พล.ต.ต.นันทชาติเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำน.ส.ณัฏฐณิชาแล้วบางส่วน โดยรับว่าได้นัดหมายกับนายกฤษฎาเพื่อมาเสพยาอีที่ห้องพักดังกล่าว จึงต้องนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจหาสารเสพติดที่สถาบันธัญญารักษ์ จ.ปทุมธานี คาดว่าน่าจะใช้เวลากว่า 3 ช.ม. ส่วนเรื่องการทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น ต้องรอหลังจากที่ผู้ต้องหากลับจากการตรวจสารเสพติดเสียก่อน เพื่อที่จะนำมาสอบเพิ่มเติมแล้วจะนำไปชี้จุดเกิดเหตุในช่วงค่ำ ถ้าหากไม่ทันก็จะเลื่อนไปทำแผนในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ย.) ก่อนจะนำตัวไปฝากขังต่อไป พล.ต.ต.นันทชาติกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องรถเก๋งที่นายธัชกร หนุ่มมือมีดขับมาจอดในวันเกิดเหตุและหายไปหลังเกิดเหตุนั้น ขณะนี้ได้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว และจะเรียกเจ้าของรถมาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกันอย่างไร สำหรับทรัพย์สินของนายกฤษฎา ได้แก่ สร้อยข้อมือทองคำหนัก 5 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 9 บาท พร้อมพระเครื่องอีก 3 องค์ ที่หายไปนั้น ตนยืนยันว่าตอนไปถึงที่เกิดเหตุในช่วงแรกๆ ก็ได้สั่งให้มีการกั้นพื้นที่และไม่ปล่อยให้ใครเข้าไป และก็ไม่ทราบว่าทรัพย์สินหายไปตอนไหน จึงต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อดูว่าก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึงมีใครเข้าไป ในห้องที่เกิดเหตุหรือไม่ ถ้าพบจะเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป ต่อมาเวลา 19.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.คณบดี เลิศอมรศักดิ์ รอง ผกก.สส.สน.ลาดพร้าว เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่นำตัวน.ส.ณัฏฐณิชาไปตรวจหาสารเสพติดที่สถาบันธัญญารักษ์ ก็ต้องรอผลตรวจใน 7 วัน โดยเบื้องต้นควบคุมตัวไว้ในห้องขังก่อน ส่วนความคืบหน้าด้านการสืบสวนขณะนี้รายละเอียดประเด็นสำคัญคลี่คลายลงมาก แล้ว ด้านรถยนต์เชฟโรเลต สีขาว ที่นายธัชกรขับมาที่โรงแรมในวันเกิดเหตุก็เป็นรถของน.ส.ณัฏฐณิชา หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้นำมาที่ สน.ลาดพร้าว และตรวจค้นภายในรถก็ไม่พบสิ่งผิดสังเกตหรือทรัพย์สินใดๆ ซึ่งเรื่องทรัพย์ของนายกฤษฎาที่ญาติระบุว่าหายไป ทางเจ้าหน้าที่ก็จะสืบสวนต่อไป แต่ประเด็นนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องมาตรวจสอบกล้องวงจรปิดอีกครั้งว่าใครเข้าออกห้องดังกล่าวบ้าง รวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่อาจจะต้องเรียกมาตรวจสอบ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายกฤษฎา หรือคนในวงการสถานบันเทิงเรียกกันว่า เสี่ยอาร์ท ก่อนหน้านี้ได้เป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ของสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านรัชดาฯ ส่วนนายธัชกร หรือโอ๊ต เป็นลูกน้องคนสนิท ต่อมานายธัชกรเริ่มมีปัญหาระหองระแหงกับนายกฤษฎาเรื่องผู้หญิงจนต้องแยกทาง กัน จากนั้นนายธัชกรและนายกฤษฎาเกิดไปชอบพอกับน.ส.ณัฏฐณิชา ซึ่งเป็นพริตตี้ตามงานแสดงสินค้าต่างๆ โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ว่าชอบผู้หญิงคนเดียวกัน น.ส.ณัฏฐณิชาก็พยายามปกปิดไม่ให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดรู้ โดยที่ตัวน.ส.ณัฏฐณิชาเองก็ไม่ทราบเช่นกันว่าผู้ชายทั้ง 2 คน รู้จักกันมาก่อน จนวันเกิดเหตุ น.ส.ณัฏฐณิชามีความคับแค้นใจที่นายกฤษฎานำคลิปเสพยามาข่มขู่จะแบล็กเมล์ จึงโทรศัพท์ไปเล่าให้นายธัชกรฟังแล้วให้รีบเดินทางมาที่กทม. แต่เมื่อนายธัชกรเข้ามาที่ห้องก็พบว่าผู้ชายคนที่พยายามจะแบล็กเมล์น.ส.ณัฏ ฐณิชา คือ เสี่ยอาร์ท คู่แค้นเก่า ทั้ง 2 คนจึงต่อสู้กันจนเกิดเหตุดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชู้สาว หรือประสงค์ต่อทรัพย์ หลังจากนี้จะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงรวมทั้งทรัพย์สินของนายกฤษฎาว่าหาย ไปได้อย่างไร ก่อนดำเนินการต่อไป
Cr. Patjaa| Nasonchai